รักผีเสมอ! ‘แรช’ เปิดใจพร้อมรับความท้าทายใหม่

มาร์คัส-แรชฟอร์ด

มาร์คัส แรชฟอร์ด แนวรุกลูกหม้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจเขาพร้อมแล้วสำหรับความท้าทายใหม่ในขั้นต่อไปของอาชีพ พร้อมยืนยันไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ต้นสังกัดผู้ปลุกปั้น จะอยู่ในใจเสมอ

แรชฟอร์ด ไม่มีชื่อกระทั่งเป็นสำรองในเกมสุดสัปดาห์ “ปีศาจแดง” แซงชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อริร่วมเมืองถึงถิ่น 2-1 จากนั้นวันอังคาร ให้สัมภาษณ์เปิดใจ:

“การไม่ได้ติดทีมแข่ง ดาร์บี้แมทช์ คือเรื่องน่าผิดหวัง แต่มันเกิดขึ้นไปแล้วและทีมเก็บชัยชนะได้ ดังนั้นผมต้องมูฟออน” แข้งอังกฤษวัย 27 ปี เริ่มกล่าว

“เมื่ออายุมากขึ้น ผมรับมืออุปสรรคได้ดีขึ้น คำถามคือผมจะทำยังไงเมื่อเจอมัน? ผมจะนั่งร้องไห้เสียใจ หรือพยายามให้ดีที่สุด เพื่อกลับมาติดทีมในเกมหน้า”

แม้เหลือสัญญาถึง 2028 แต่เกิดกระแสสโมสรเตรียมขาย และ แรช กล่าวต่อถึงอนาคต: “ส่วนตัวแล้ว ผมพร้อมสำหรับความท้าทายใหม่ และก้าวต่อไปของอาชีพ”

“เมื่อผมออกจากสโมสร มันจะไม่มีความบาดหมางอะไรทั้งนั้น คุณจะไม่มีทางได้ยินผมพูดเรื่องแย่ๆ เกี่ยวกับ ยูไนเต็ด”

“ผมเคยเห็นผู้เล่นในอดีตหลายคนเป็นแบบนั้น ผมไม่ต้องการทำตาม ผมรู้ว่าสถานการณ์แย่อยู่แล้ว ผมจะไม่ทำให้มันแย่ไปอีก”

“เมื่อถึงเวลาอำลา ผมจะออกแถลงการณ์ด้วยตัวเอง แน่นอนผมจะยังเป็น ‘เด็กผีแดง’ แบบ 100 เปอร์เซนต์อยู่เสมอ”

มีการตั้งข้อสงสัย แรชฟอร์ด อาจไม่เข้าระบบของ รูเบน อโมริม เจ้านายใหม่ และตัวนักเตะชี้แจง: “ผมมีคุณสมบัติสำหรับเล่นทั้งปีกซ้าย, กลางรุก และกองหน้าตัวเป้า”

“บางตำแหน่งผมเป็นธรรมชาติมากกว่า บางตำแหน่งผมต้องฝึกซ้อมและทำงานด้านแท็คติกเพิ่ม การยืนปีกซ้าย เหมาะสำหรับผมที่สุด”

“กองกลางตัวรุกฝั่งซ้าย เหมาะกับผมเช่นกัน แต่ผมต้องปรับสไตล์ การปรับตัวคือทักษะที่สำคัญที่สุด ผู้คนอาจมองไม่เห็น แต่ผมเคยเล่นมาแล้วหลายตำแหน่ง ภายใต้ผู้จัดการหลายคน”

นักข่าวถามต่อ ผู้คนยังไม่ได้เห็น แรชฟอร์ด เวอร์ชั่นที่ดีที่สุดหรือไม่: “แน่นอน 100 เปอร์เซนต์ นั่นคือทัศนคติผมมาตลอด”

“ผมเพิ่งผ่านครึ่งทางอาชีพ ผมไม่คาดหวังว่าตอนนี้ตัวเองต้องอยู่ในช่วงพีค การเล่นใน พรีเมียร์ ลีก มา 9 ปีสอนอะไรผมหลายอย่าง”

“ผมเติบโตขึ้น ผมไม่มีเรื่องให้เสียใจตลอด 9 ปี ผมโฟกัสไปที่การทำงานในแต่ละวัน ทั้งเรื่องดีและแย่อาจเกิดขึ้น ผมแค่พยายามรักษาสมดุลให้ดีที่สุด”

“บางครั้งผมรู้สึกว่าตัวเองโดนเข้าใจผิด แต่ผมโอเคกับมัน ผมเป็นแค่คนเรียบง่ายที่มีความรักฟุตบอล นั่นคือชีวิตผมมาตั้งแต่เริ่มต้น”