“เดอะตุ๊ก” ยก “ธีรศิลป์” คือกองหน้าที่อยู่ในหัวใจคนไทย

“เดอะตุ๊ก” ชื่นชม “ธีรศิลป์” เป็นกองหน้าที่อยู่ในหัวใจคนไทย ยุคปัจจุบัน หลังทำ 2 แอสซิสต์ในเกมที่ “ช้างศึก” บุกเชือด “ทีมชาติสิงคโปร์”

“ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” อดีตดาวยิงทีมชาติไทย เผยถึงฟอร์มการเล่นของ “ธีรศิลป์ แดงดา” ที่ถูกส่งลงมาในนาทีที่ 66 ในเกมที่บุกไปชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มซี นัดที่ 2 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โดย “ปิยะพงษ์” ได้เผยผ่านทางช่อง แตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง ว่า “ธีรศิลป์ มีความฟิตแค่ 30-40 เปอร์เซ็นต์ จะสังเกตว่าวิ่งสปีดไม่ได้ เดี๋ยวกล้ามเนื้อมีปัญหา แต่ มาโน่ คงบอกทิ้งไพ่แล้ว คุณลงไปครองบอลและจ่ายบอลดีกว่า ซึ่ง มาโน่ ก็เลือกทำถูก แต่ก็เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บของนักเตะเหมือนกัน กลับไปไม่รู้จะเล่นกับ บีจี ต่อได้หรือเปล่า”

“รู้ว่าสปีดไม่ได้ เพราะว่าถ้าสปีดกล้ามเนื้ออาจจะขาดทันที แต่ด้วยความฉลาด อัจฉริยะของพี่มุ้ย (ธีรศิลป์) ลงมา เกมที่เจอกับสิงคโปร์ ซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้มากมายระดับเอเชียมากนัก ก็ไม่ได้ส่งผลต่ออาการกำเริบมากขึ้น แต่ด้วยความฉลาดของตัวเอง สมองเป็นกรดอยู่แล้ว จาก 2 ประตูที่ส่งให้”

“ในตำแหน่งศูนย์หน้าในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรุ่น เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ หรือว่า เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง รุ่นนั้นก็เล่นได้ แต่ว่ามีคนที่อยู่ในหัวใจแฟนบอลคือสองคนนี้ ในสนามก็อยู่ในหัวใจ นอกสนามก็อยู่ในหัวใจ แต่พอมารุ่นหลังอย่าง ศรายุทธ ชัยคำดี หรือ พิพัฒน์ ต้นกันยา เล่นเป็นศูนย์หน้าทีมชาติไทยเหมือนกัน แต่เล่นไม่ได้อยู่ในหัวใจที่จะติดตามหรือคล้อยตาม แต่ถามว่าเล่นดีหรือไม่ ตอบเลยว่าเล่นดี เล่นเก่ง แต่ไม่ได้อยู่ในหัวใจที่จะต้องจดจำ แต่พอมาเป็นพี่มุ้ย คนไทยจดจำทั้งในและนอกสนาม เป็นอีกคนที่คนไทยนึกถึงตลอด เวลาคิดอะไรไม่ออกก็คือยุคนี้ก็ต้องเป็นคนนี้เวลาที่คิดถึง พี่มุ้ยก็สร้างบรรยากาศแบบนี้ ลงเล่นในอายุ 35 ยอมรับว่าร่างกายมันย้วยลงมา แต่ด้วยความอัจฉริยะ ของตัวพี่มุ้ย ความเฉลียวฉลาดในการหาพื้นที่ ในการเปิดบอล และการครองบอล ต้องยอมรับว่าพอลงมา สร้างมิติได้มากมายเหลือเกิน” เดอะตุ๊ก กล่าว

  • “โชยะ” เผยเตรียมเค้นฟอร์มเก่งเพื่อช่วย “อุราวะ” ดวล “อวิสป้า”
  • เปิดสถิติแข้งที่จ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายของคู่แข่งในไทยลีก 10 นัดแรก
  • ส.บอลเมียนมาฯ ต่อสัญญา “โค้ชตะวัน” ช่วยดูแลทีมต่อ

สำหรับ ทีมชาติไทย จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในเกมอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติญี่ปุ่น วันที่ 1 มกราคม 2567 ก่อนที่จะลุยศึก เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ในช่วงเดือนมกราคม

⚽เว็บไซต์ฟุตบอล ที่คอบอลไม่ควรพลาด : บ้านผลบอล